ผ้าขนหนูแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรีย
ในชีวิตปัจจุบันแทบทุกบ้านจะต้องมีผ้าขนหนูไม่น้อยกว่า 4 - 5 ผืน เพราะผ้าขนหนูเป็นผ้าที่สามารถนำมาใช้งานได้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะเรื่องของการเช็ดทำความสะอาด... และสำหรับผ้าขนหนูที่นำมาใช้งานสำหรับการเช็ดตัวทำความสะอาดทุกครั้งหลังอาบน้ำ ล้างมือ หรือเช็ดผมนั้น รู้กันหรือไม่ว่ากว่า 90% ผ้าขนหนูนั้นมีเชื้อแบคทีเรียนสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก
วันนี้ร้านผ้านุ่มมีเคล็ดลับการดูแลผ้าขนหนูให้หอมนุ่มน่าใช้ และปลอดจากเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ มาฝากกันด้วยค่ะ
1.ควรตรวจสอบเนื้อผ้าขนหนูที่มีอยู่ก่อนทำการซัก เพราะเนื่องจากผ้าขนหนูมีหลายประเภท เนื้อบาง เนื้อหนา หรือเป็นผ้าฝ้าย ดังนั้นการซักผ้าขนหนู แน่นอนว่าควรต้องแยกซักเพื่อรักษาเส้นใยของผ้าขนหนูให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นนะคะ
Tips : การซักผ้าขนหนูควรซักด้วยน้ำอุณหภูมิร้อนสำหรับผ้าฝ้ายที่ 60 องศา
2.หลังซักน้ำยาปรับผ้านุ่มทุกครั้งควรแช่ด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีคุณสมบัติรักษาเส้นใยของผ้าเพื่อให้ผ้าขนหนูไม่เสียรูปทรงและยังช่วยจำกัดแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจฝังอยู่ในเส้นใยผ้านุ่มได้อีกด้วย
3.การทำความสะอาดผ้าขนหนูด้วยการซักเครื่องนั้น สิ่งสำคัญและข้อควรระวังคือไม่ควรนำผ้าขนหนูหลายๆ ผืนซักรวมกันเป็นจำนวนมากๆ เพราะนอกจากจะทำให้ผ้าขนหนูพันกันในเครื่องแล้ว ยังช่วยทำให้เส้นใยของผ้านั้นอาจขาดได้ง่ายอีกด้วยนะคะ
ผ้านุ่มหลังจากเครื่องซักผ้าส่งสัญญาณเตือนว่าการซักเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว รีบนำผ้าขนหนูออกจากเครื่องซักผ้าทันที มิฉะนั้น เชื้อราอาจก่อตัวขึ้นถ้าคุณทิ้งผ้าขนหนูเปียกชื้นไว้ในเครื่องซักผ้านานเกินไป
4.การนำผ้าขนหนูที่ปั่นแห้งแล้วออกผึ่งแดดนั้น ควรสะบัดก่อนแขวนราว 1 ครั้งเพราะจะช่วยทำให้เส้นใยของผ้าขนหนูนั้นพองตัวก่อนโดนแสงแดด ส่วนบ้านไหนที่มีเครื่องอบผ้านั้น ให้ใช้ความร้อนและจำกัดเวลาตามคำสั่งของเครื่องที่ปรากฏได้เลยนะคะ หรือถ้าหากไม่มีคำสั่งตั้งค่ามาตรฐาน ให้ตั้งเวลาที่ 40 นาที และควรใส่ผ้าขนหนูในจำนวนที่พอดี จะช่วยให้ผ้าขนหนูแห้งทั่วผืนนะคะ
เอาล่ะเคล็ดลับดีๆ และง่ายๆ เพียงเท่านี้ น่าจะช่วยให้คุณแม่บ้านทั้งหลาย ประหยัดเวลาและมีผ้าขนหนูทั้งนุ่มทั้งหอมใช้งานได้อีกนานๆ เลยล่ะค่ะ
